
ข้าวแกงเจ็กปุ๊ย
อิ๊งค์ Eat All Around














ข้าวแกงเจ็กปุ๊ย
นิตยสาร Time Out ชื่อดังเพิ่งจัดอันดับ 33 ถนนสุดคูลของโลกไปสดๆร้อนๆเมื่อเดือนสิงหาคม เป็นที่น่ายินดีว่าถนนเยาวราชของเราติดอันดับ 8 ในปีนี้ด้วย และยังได้แนะนำร้านเชฟเทเบิ้ลไทย-จีนสุดเก๋ โพทง(Potong) ของเชฟแพมไว้ในบทความอีกต่างหาก
นิตยสาร Time Out ชื่อดังเพิ่งจัดอันดับ 33 ถนนสุดคูลของโลกไปสดๆร้อนๆเมื่อเดือนสิงหาคม เป็นที่น่ายินดีว่าถนนเยาวราชของเราติดอันดับ 8 ในปีนี้ด้วย และยังได้แนะนำร้านเชฟเทเบิ้ลไทย-จีนสุดเก๋ โพทง(Potong) ของเชฟแพมไว้ในบทความอีกต่างหาก
แน่นอนว่าต้องมีการเอ่ยถึงถนนเยาวราช สวรรค์ของผู้ชื่นชอบอาหารสตรีทฟู้ดอร่อยริมทาง เลยถือโอกาสพาแฟนๆกลับมาเยือนถนนสายอาหารสุดคูลกันอีกครั้งหนึ่ง
การมาเยาวราชนั้นต้องนำรถไปจอดและเดินตระเวนชิม เนื่องจากทุกร้านจะไม่มีที่จอดเลย หรือถ้าใครจะใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT มาขึ้นที่สถานีวัดมังกรก็สะดวกมากๆ
ส่วนผมนั้นชอบไปจอดตรงที่จอดรถลานกลางแจ้งเฉลิมบุรีใกล้สี่แยกเฉลิมบุรี หรือไปตรงที่จอดใหม่ในตึก I’m Chinatown นอกจากนี้ยังมีที่จอดรถในตึกซ้ายมือริมถนน(ซอย)มังกรฝั่งที่จะมุ่งไปออกด้านถ.เยาวราชด้วย
ร้านที่จะไปชิมต้องเดินซอกแซกเข้าซอยมังกรฝั่งที่อยู่ข้างวัดเล่งเน่ยยี่หรือวัดมังกรกมลาวาส เพียงไม่กี่สิบเมตรก็เลี้ยวซ้ายซอยแรกอีกที ก็จะเห็นคิวผู้คนต่อแถวซื้อแกงใส่ถุงกลับบ้านตรงตึกแถวห้องหัวมุมซ้ายมือ (หรือจะเข้าจากซอยคนเดินเล็กๆ ซอยเจริญกรุง 19 เดินฝ่าผู้คนตรงเข้ามานิดเดียวก็จะเห็นร้านอยู่ทางขวามือ)
นี่คือร้านข้าวแกงเจ็กปุ๊ย ซึ่งมีอีกฉายาหนึ่งว่าข้าวแกงเก้าอี้ดนตรี เนื่องจากไม่มีโต๊ะกินข้าว ต้องอาศัยผลัดกันนั่งกินบนเก้าอี้พลาสติกสีแดงตรงข้างร้าน
มาดูกันว่าร้านนี้เขาเด็ดเรื่องอะไรบ้าง เจ๊กปุ๊ยคือชื่อผู้เริ่มกิจการเมื่อ 80 กว่าปีก่อน สมัยแรกหาบขายแกงกะหรี่เนื้อใส่เอ็นกับแกงกะหรี่หมูแค่ 2 อย่าง จากนั้นก็มาปักหลักขายอยู่ปากซอยมังกร โดยมีเจ๊เฉีย ลูกสาว ช่วยเจ็กปุ๊ยขายมาตั้งแต่วัยแรกรุ่น 13 ปี(ซึ่งตอนนี้ 73 ปีแล้ว) โดยเจ๊เฉียได้เพิ่มกับข้าวต่างๆอีกหลายอย่าง เป็นข้าวแกงแบบจีนที่มีรสชาตินุ่มนวล ไม่เผ็ดร้อนเท่ากับข้าวแกงไทย
ในที่สุดจึงย้ายมาขายอยู่ที่บ้าน ในตึกแถวถัดจากที่เดิมเพียง 30 เมตร ตอนนี้มีน้องนัท ลูกชายเจ๊เฉีย(อายุ 48 ปี) มารับช่วงขายพร้อมญาติพี่น้อง ทำกันในครอบครัวอีกด้วย
เมนูร้านเจ็กปุ๊ยมีอยู่ไม่กี่อย่าง ทำแค่นี้มาตลอด แต่ก็ได้รับความนิยมมีขาประจำเหนียวแน่นมากมาย โดยมีตั้งแต่แกงแกงกะหรี่หมูใส่ฟัก แกงกะหรี่เนื้อ(ไม่มีเอ็นเนื้อแล้ว น้องนัทบอกว่าพักหลังติดพังผืดเยอะจึงตัดออกไป) แกงเขียวหวานไก่ใส่เนื้อหน้าอก ปีก ข้อ ปลายปีก และเลือด แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายใส่ฟัก ซึ่งจะซื้อเครื่องแกงมาปรุงเพิ่ม และก็มีผัดเผ็ดหน่อไม้ ผัดเผ็ดไก่(ใส่เนื้อปูเล็กน้อย)ใส่ถั่วลันเตา ปีกไก่เหล้าแดง(ควรมาชิมเมนูนี้ตั้งแต่ทำเสร็จใหม่ๆ ซอสจะได้ไม่รัดตัวจนแข็ง) หมูหวาน ซี่โครงหมูอบพริกเผา ไข่พะโล้ ไข่ต้ม กุนเชียง และพะแนงหมู
โดยทุกๆวันจะทำแกงกะหรี่หมูเสร็จตอนบ่ายโมง และแกงเขียวหวานทั้ง 2 อย่างจะได้ที่ตอนบ่าย 2 โมง ส่วนแกงกะหรี่เนื้อเสร็จช้าสุดตอนบ่าย 3 โมง ทางที่ดีควรมาตอนใกล้ๆบ่าย 3 โมง รอให้ของทุกอย่างครบ ซึ่งจะขายไปจนถึง 1-2 ทุ่มโดยประมาณ สนนราคาเริ่มต้นที่ 40 บาท และเพิ่มเป็น 50-60-70 บาทขึ้นอยู่กับว่าใส่กี่อย่าง ไข่พะโล้ขายฟองละ 10 บาท แต่ถ้าสั่งกลับบ้านจะขายเป็นคู่ 2 ฟอง 20 บาท 4 ฟอง 40 บาท ถ้าสั่งกุนเชียงกลับบ้านคิด 20 บาท
ผมได้ลองชิมเกือบทุกอย่างแล้ว ที่ชอบมากๆคือแกงกะหรี่เนื้อรสนุ่มนวลหอมๆสไตล์จีน แกล้มกับพริกชี้ฟ้าและแตงกวา ต้องสั่งให้ใส่กุนเชียงด้วย หน้าตาดูแห้งๆแต่รสเข้มหอมมากๆ นอกจากนี้ห้ามพลาดไข่พะโล้ ทำจากไข่เป็ดเบอร์ 0 เคี่ยวนานจนไข่รัดตัวเป็นสีเข้ม อร่อยสุดๆ
ส่วนใครไม่กินเนื้อให้สั่งแกงกะหรี่หมูใส่ฟัก นอกจากนี้ยังถูกใจขนมจีนราดแกงเขียวหวานไก่(ชอบส่วนปีก) กับแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายใส่ฟัก
ความสนุกอยู่ที่ร้านนี้มีโค้ดในการสั่ง คนขายจะพูดกันเป็นรหัสสั้นๆ เช่น ชิ้นเชี้ยงโล้ คือข้าวราดแกงเขียวหวานลูกชิ้นปรากราย ใส่กุนเชียงกับไข่พะโล้ หมูเชี้ยง คือข้าวราดแกงกะหรี่หมู ใส่กุนเชียง เนื้อเชี้ยงโล้ คือข้าวราดแกงกะหรี่เนื้อใส่กุนเชียงและไข่พะโล้
และที่ขำมากๆคือ จีนไก่ปูปีกๆ ขนมจีนราดแกงเขียวหวานไก่เน้นส่วนปีก และใส่ผัดเผ็ดไก่ผสมปูด้วย อีกทั้งเหล้าโล้ คือข้าวราดปีกไก่เหล้าแดง ใส่ไข่พะโล้ เปียกๆคือราดน้ำแกงเยอะๆ
คิวที่เห็นต่อแถวยาวๆนั้นคือคิวซื้อกลับ ถ้าจะสั่งอาหารกลับให้โทร 08-1854-7110 เท่านั้น อย่าสั่งในเพจเฟซบุ๊ก ส่วนพวกเรานั่งกินที่ร้าน พอเห็นเก้าอี้ว่างก็ลากมานั่งล้อมวงกันเลย มีคำเตือนว่าได้ข่าวร้านนี้คนขายจะค่อนข้างดุสักหน่อย อย่าถามจุกจิกมากเกินไปนะจ๊ะ แต่เอาเข้าจริงวันนั้นก็ดูทุกอย่างเรียบร้อยดี
และที่ร้านฝากบอกมาว่าหน้าร้านไม่มีที่จอดแม้แต่คันเดียว เกรงใจเพื่อนบ้าน วันนั้นมีหลุดมา 1 คัน โกลาหลทั้งซอยเพราะแคบมาก กรุณาไปจอดตามที่จอดตามลานตามตึกต่างๆด้วยนะจ๊ะ ถ้าใครอยากเห็นหน้าเจ๊เฉีย เดี๋ยวนี้จะลงมาแค่ช่วงเย็นๆเท่านั้น นี่คือข้าวแกงสไตล์จีนที่รสชาตินุ่มนวล สมควรแก่การมาลิ้มลองดูว่าจะแตกต่างข้าวแกงไทยรสจัดๆยังไงบ้างนะจ๊ะ