ตะกร้าของฉัน

ยังไม่มีรายการสินค้าในตะกร้า

ราคาสินค้า

฿ 0
coolsim
coolsim
Podcast
Live Streaming
Content
Playlist
LIVE -
share
มหาสาร (ร้านเนื้ออร่อยมหาศาล จองคิวนานนับเดือน)

มหาสาร (ร้านเนื้ออร่อยมหาศาล จองคิวนานนับเดือน)

อิ๊งค์ Eat All Around

10 พ.ค. 2566
Mahasan
Mahasan
Mahasan
Mahasan
Mahasan
Mahasan
Mahasan
Mahasan
Mahasan
Mahasan
Mahasan
Mahasan
Mahasan
Mahasan
Mahasan
Mahasan
Mahasan
Mahasan
Mahasan
Mahasan
16.30-21.30 น. อังคาร-อาทิตย์(2 รอบ 17.00-19.00 น. และ 19.30 -21.30 น.)
2016/45-46-47 ซ.จันทน์23/1 ตรงข้ามไปรษณีย์ยานนาวา ถ.จันทน์ ช่องนนทรี ยานนาวา กรุงเทพฯ 10120
063-406-5566 (คุณโบว์หรือน้องแอดมินรับสาย)
-
-
http://www.mahasanbkk.com
-

มหาสาร (ร้านเนื้ออร่อยมหาศาล จองคิวนานนับเดือน)

แต่ก่อนนี้ถ้าอยากลิ้มลองสเต๊กชั้นดี ต้องไปตามสเต๊กเฮาส์ในโรงแรมห้าดาวชั้นเลิศเท่านั้น ร้านสเต๊กที่เปิดอยู่ต่างหากมีแทบนับร้านได้

 แต่ก่อนนี้ถ้าอยากลิ้มลองสเต๊กชั้นดี ต้องไปตามสเต๊กเฮาส์ในโรงแรมห้าดาวชั้นเลิศเท่านั้น ร้านสเต๊กที่เปิดอยู่ต่างหากมีแทบนับร้านได้ 

ขอแนะนำร้านสุดยอดเนื้อสไตล์ไทยปนฝรั่งโดยเชฟคนไทยแท้ๆ เปิดมาได้ 6 ปี เพียงคำแรกที่จิ้มเนื้อสเต๊กเข้าปากก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือเนื้อคู่ของผมที่ตามหามานาน ร้านนี้มีชื่อว่า มหาสาร(Mahasan) ร้านเนื้อแสนอร่อยมหาศาล จองคิวนานสองเดือน

มหาสารเป็นของเชฟแบงค์(Bank) ณัฐพงศ์ ราชเล็ก กับน้องโบว์ ผู้รับหน้าที่ดูแลหน้าร้าน น้องแบงค์ชื่นชอบในเรื่องเนื้อ เรียนรู้มานานกว่า 10 ปี แบงก์บอกว่าจะเก่งเรื่องเนื้อได้ต้องรู้ลึกซึ้ง 2 อย่าง คือคาแรคเตอร์ของแต่ละชิ้นส่วนเนื้อ ขึ้นอยู่กับการตัดแต่ง(การ Cut) และการย่างเนื้อ 

ร้านแรกของแบงค์และโบว์อยู่ที่ย่านเจริญกรุง จากนั้นย้ายมาอยู่ที่ในซอยจันทน์ 23/1 ตรงข้ามไปรษณีย์ยานนาวาได้ 4 ปีกว่าแล้ว

ก่อนอื่นขอบอกว่ามาร้านนี้ต้องจองล่วงหน้าสถานเดียว เปิดเข้าไปดูได้ที่ www.mahasanbkk.com จะแจ้งวันที่และเวลาในการเริ่มจองไว้ โดยเป็นการเปิดจองคิวล่วงหน้าของสองเดือนถัดไป ซึ่งจะหมดลงในพริบตา อย่างเช่น การจองคิวของเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม เพิ่งเปิดให้จองไปเมื่อ 28 เมษายน เวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งในแต่ละเดือนจะมีวันหยุดไม่แน่นอน แจ้งวันหยุดไว้ในเว็บไซต์ตอนจองให้แล้ว นอกจากนี้บางครั้งก็มีคิวหลุดในบางวัน ขอให้เปิดเข้าไปเช็คในเว็บไซต์เรื่อยๆนะจ๊ะ

ร้านมหาสารอยู่ในตึกแถวของซอยจันทน์ 23/1 เดินเข้าไปกลางซอยจะอยู่ทางขวามือ ทางมาร้านนั้นถ้าเริ่มจากทางลงทางด่วน(ขั้นที่ 1)ถนนจันทน์ ตรงสี่แยกที่ตัดกับถนนเจริญราษฎร์ใต้ทางด่วน ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนจันทน์ วิ่งไปอีก 1.3 กม.ผ่านสามแยกที่ตัดกับถ.สาธุประดิษฐ์ ก็จะเห็นซอยจันทร์ 23/1 ทางขวามือ

ตามปกติจะจอดรถในซอยนี้ไม่ได้ มีที่ว่างหน้าร้านแค่ 4-5 คันเท่านั้น ขอให้ไปจอดตรงลานจอดรถกลางแจ้ง J Park ใกล้ซอยจันทน์ 25/1 (ค้นในกูเกิ้ลแมพส์ว่าศูนย์อาหารเจปาร์ค พระราม 3 นะจ๊ะ) จอดรถเสร็จเดินข้ามสามแยกสาธุ-จันทน์ ไปที่ร้านประมาณ 500 เมตร(อาท บอกด้วยครับ เพราะที่จอดร้านนี้สำคัญมาก)

ที่ร้านมหาสารจะเปิดเฉพาะมื้อเย็นเท่านั้น โดยจะทยอยให้คนกินเหลื่อมเวลามาที่ร้านตั้งแต่บ่าย 4 โมงครึ่ง ใกล้ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป และวันเสาร์-อาทิตย์จะมีรอบมื้อกลางวันด้วย ทั้งร้านมีแค่ 7 โต๊ะ คือห้องกลาง 6 โต๊ะ และห้องกระจกด้านริมอีก 12 คน(ซึ่งบางครั้งจะจัดเป็นโต๊ะแยก) (ส่วนด้านในเป็นห้องส่วนตัว 12 คน ไม่อยู่ในคิวจอง)

ด้านหลังสุดคือครัวเปิด เห็นน้องแบงค์คุมการย่างเนื้อ หั่นสเต๊กมือเป็นระวิง โดยใช้เตาถ่านในการย่าง เคล็ดลับคือต้องเกลี่ยถ่านตามความหนาบางของเนื้อที่ไม่เท่ากันทั้งชิ้น ซึ่งเนื้อจะทาด้วยเกลือ พริกไทยก่อนย่างเท่านั้น ความอร่อยและรสชาติมากจากน้ำมันและน้ำเนื้อที่อยู่ข้างในชิ้นเนื้อ ขอบอกว่าเชฟและลูกทีมย่างได้อร่อยสุดยอดจริงๆ

แต่ก่อนนี้น้องแบงค์จะเน้นเนื้อโคขุนลูกผสมของไทย แต่เดี๋ยวนี้จะมีมาไม่ค่อยสม่ำเสมอ ซึ่งในวันนั้นจะมีเนื้อไทยส่วนพิคานย่า( 200 กรัม 450 บาท) ทีโบน(520 กรัม 690 บาท) และสันในเทนเดอร์ลอยน์เท่านั้น ซึ่งเราสั่งพิคานย่า เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง

ตอนนี้น้องแบงค์จึงหันมาเน้นเนื้อนำเข้าซึ่งเป็นเนื้อแช่เย็นหรือเนื้อชิลล์ ไม่แช่แข็ง เพื่อให้คงความสดหวานของรสชาติเนื้อไว้ได้เต็มที่ เน้นเนื้อชั้นดีวากิวพันธุ์ผสมจากออสเตรเลีย มีทั้งลายไขมันเบอร์ 6-7 และสุดยอดเบอร์ 8-9 เลือกขนาดน้ำหนักของเนื้อได้ บางครั้งก็มีเนื้อนำเข้าจากฝรั่งเศส ญี่ปุ่น สเปน และเนื้อจากอเมริกาเกรดสูงสุด USDA Prime ด้วย

เริ่มกันด้วยเมนูพิเศษที่เป็นกระดาษแผ่นๆ มีเนื้อให้เลือกหลายชิ้นส่วน แต่ที่ขายดีที่สุดขอเชียร์ให้สั่งคือ เนื้อใบพาย(Flat Iron)และเนื้อริบอายออสเตรเลีย

เราเลือกเนื้อใบพาย(Flat Iron) ลายไขมันเบอร์ 8-9 ชิ้นโตๆ (ราคาเปลี่ยนตามเกรดลายไขมันเนื้อ 660 กรัม 3,300 บาท) แบ่งกันกิน 6 คน(ไม่กินเนื้ออีก 2 คน) ซึ่งน้องแบงค์บอกว่าขายดีมากจนไม่มีเวลาบ่มหรือ aged เนื้อ แค่นี้ก็สุดยอดจนทุกคนทำตาโตประทับใจไปตามๆกัน นุ่มหอมมันหั่นชิ้นหนาๆ กินกับไข่ดอง หรือจะจิ้มน้ำจิ้มแจ่ว จิ้มเกลือสีชมพู หรือจิ้มวาซาบิได้ทั้งนั้น ส่วนคนชอบเนื้อที่มันยิ่งขึ้นไปอีกให้สั่งเนื้อริบอาย

ของดีเข้ากับเนื้อ ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึงร้าน ไข่ดองน้ำปลา(ฟองละ 35 บาท) ไข่ไก่สดดองด้วยน้ำปลานาน 6-8 ชั่วโมง ไม่เกิน 12 ชั่วโมง(ถ้านานกว่านี้จะแข็งไป)ใส่พริกขี้หนูซอยและกระเทียม อร่อยเหาะข้ากันดีกับเนื้อจริงๆ ซึ่งเมนูนี้ต้องสั่งจองและบอกจำนวนฟองล่วงหน้า แนะนำว่าสั่งให้สมาชิกทุกคนไปเลยนะจ๊ะ

อีกเมนูซิกเนเจอร์ที่ห้ามพลาดเป็นอันขาด ลิ้นวัวย่าง (350 บาท)เสิร์ฟมาชิ้นหนาๆโตๆ ขอบนอกกรอบๆ ข้างในนุ่มเด้งหอมฉ่ำ เกิดมาไม่เคยกินลิ้นวัวที่ไหนอร่อยเท่านี้ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดใส่พริก กระเทียมและไข่ดองอร่อยสุดๆ ลิ้นวัวนี้ทำให้สุกอย่างช้าๆด้วยกรรมวิธีซูวี้ด(Sous-Vide) นานถึง 36-42 ชั่วโมง ที่อุณหภูมิ 56-65 องศาเซลเซียส ก่อนที่จะนำมาย่างบนเตา

ที่นี่มีเนื้อส่วนที่หากินยาก เรียกว่า Hanger หรือเนื้อขั้วตับ(250 กรัม 900 บาท) มีเนื้อสัมผัสที่ต้องออกแรงเคี้ยวเพิ่มอีกหน่อย กลิ่นรสหอมๆเข้มข้น  

ต่อด้วยข้าวอบมันเนื้อ (350 บาท) เอามันเนื้อที่เหลือจากการเจียวมาผัดกับข้าวหอมมะลิเก่า โปะด้วยเนื้อสไลซ์บางๆใหญ่ๆ(วันนี้คือเนื้อหัวไหล่) เสิร์ฟมาร้อนๆในหม้ออบปิดฝา เวลากินให้คลุกเคล้าจนทั่ว แกล้มด้วยไข่ดองน้ำปลากับน้ำมันทรัฟเฟิล

วันนั้นยังมีเมนูที่ตามปกติจะสั่งดีลิเวอรี(Delivery)กลับบ้านเท่านั้น นั่นก็คือ โรสต์บี๊ฟ(Roast Beef) เนื้อริบอายออสเตรเลีย(ชิ้นนี้ 9,000 บาท เสิร์ฟได้หลายจานแบ่งกัน 2 โต๊ะ 10 คน) เนื้อทา(rub)ด้วยผงพริกปาปริก้า ผงกระเทียม มัสตาร์ด เกลือ พริกไทย มีน้ำเนื้อ(Beef Au Jus) ทำจากบรั่นดีกับน้ำสต๊อกเนื้อ ให้ราดบนเนื้อ แกล้มด้วย มันบดที่ใส่เนยกับครีมไม่ยั้งหอมมันมากๆ มะเขือเทศ Bigin ของญี่ปุ่นแต่ปลูกที่เชียงใหม่ มัสตาร์ด ผักโขมกับชีสพามิจาโน เรจจาโน(บ่มนาน 24 เดือน) และยอร์คเชอร์พุดดิ้ง(Yorkshire Pudding) พุดดิ้งอบแบบอังกฤษที่ทำจากแป้ง ไข่และนม

ส่วนเนื้อโคขุนของไทย สเต๊กเนื้อส่วนหายากเรียกว่าพิคานย่าหรือปิกาย่า(Picanha Steak)(450 บาท)ถูกใจคอเนื้อ อยู่บริเวณสะโพกมีกล้ามเนื้อ ซึ่งต้องออกแรงเคี้ยวหน่อย แต่มีกลิ่นรสเข้มข้น

สำหรับไม่กินเนื้อ ก็มีของอร่อย ซี่โครงหมูทอดน้ำปลา (210 บาท) ตุ๋นซี่โครงก่อนแล้วนำไปทอดจนด้านนอกแห้งๆ และด้านในนุ่มๆ หอมน้ำปลาอร่อยดี นอกจากนี้ที่ห้ามพลาดก็คือข้าวอบกระเทียมหมูย่าง(340 บาท) นุ่มหอมอร่อยอย่าบอกใคร กินกับไข่ดองน้ำปลากับน้ำมันทรัฟเฟิล อีกทั้งซี่โครงหมูพอร์คช็อป(250 กรัม 385 บาท)ราดน้ำเกรวี่หัวหอม รวม 3 เมนู

สนนราคามื้อนี้ไม่แพงเลยสำหรับร้านเนื้อชั้นยอด สั่งมาเต็มโต๊ะจนอิ่มจุกๆ หารกันคนละหนึ่งพันบาทนิดๆ นี่คือสุดยอดร้านเนื้ออร่อยจนฝันถึงตลอดเวลา ใครอยากตามไปชิม ขออวยพรให้แฟนๆโชคดีในการจองนะจ๊ะ เพราะจองยากจองเย็นจริงๆ 555

แนะนำ            เนื้อใบพาย(Flat Iron)ออสเตรเลีย เนื้อริบอายออสเตรเลีย ไข่ดองน้ำปลา ลิ้นวัวย่าง เนื้อขั้วตับ(Hanger) ข้าวอบมันเนื้อ โรสต์บี๊ฟ(Roast Beef) เนื้อพิคานย่า ซี่โครงหมูทอดน้ำปลา ข้าวอบกระเทียมหมูย่าง

หมายเหตุ      จอดรถที่ศูนย์อาหารเจปาร์ค(J Park) พระราม 3 แล้วเดินมาร้าน 500 เมตร ไม่เกิน 10 นาที 

Next song | -
-
Next song | -