Villa Frantzén(วิลล่า ฟรันต์เซน)
อิ๊งค์ Eat All Around
Villa Frantzén(วิลล่า ฟรันต์เซน)
มีร้านเชฟเทเบิลอีกหนึ่งแห่งในซอยเย็นอากาศ 3 ที่กำลังฮิตติดลมบนอยู่ในตอนนี้ นำเสนอคอร์สอาหารอร่อยแนวสดชื่นแตกต่างหากินได้ยากในเมืองไทย มีชื่อว่า Villa Frantzén(วิลล่า ฟรันต์เซน)
อาหารของที่นี่เป็นสไตล์โมเดิร์นนอร์ดิก(Nordic) โดยเชฟบยอร์น ฟรันต์เซน (Björn Frantzén) เชฟชื่อดังจากร้านมิชลิน 3 ดาว Frantzén ที่สวีเดน ซึ่งมีร้านในเครือหลายแห่ง รวมถึงร้าน Zén มิชลิน 3 ดาวสไตล์นอร์ดิกผสมญี่ปุ่นที่สิงคโปร์ด้วย
แน่นอนว่าวิลล่า ฟรันต์เซนนำวัตถุดิบกับพืชผักผลไม้จากสแกนดิเนเวียมาร่วมใช้ด้วย ซึ่งเป็นข้อดีทำให้เราเปิดหูเปิดตากับของใหม่ๆ เช่น ไข่ปลา vendace roe เคี้ยวกึ๊ดๆ ชีสของสวีเดน Västerbotten ลูกซีบัคธอร์น Sea Buckthorn ซึ่งขึ้นในที่หนาวจัด
แนวอาหารส่วนใหญ่จะออกรสเปรี้ยวสดชื่น ใช้พืชผักที่มีการหมักดอง เช่น หน่อไม้ฝรั่งสีขาว(White asparagus) บางเมนูมีส่วนผสมของเครื่องเทศ เช่นกานพลู ชะเอมเทศ(Licorice) ใส่ครีมหอมมัน และมีกลิ่นอายเอเชียเช่น ปรุงด้วยน้ำซุปดาชิ ความโดดเด่นอยู่ที่ในหนึ่งคำจะมีหลากหลายรสชาติและหลากหลายรสสัมผัส
ที่วิลล่า ฟรันต์เซนไม่ได้มีแค่อาหารสวยและอร่อยเท่านั้น แต่บรรยากาศก็สุดคูลสบายๆผ่อนคลายแต่เนี้ยบเฉียบเก๋ อยู่ในบ้านโบราณเก่าแก่ที่ปรับปรุงให้กลายเป็นวิลลาโมเดิร์น ตกแต่งสไตล์นอร์ดิกอบอุ่นทันสมัยเหมือนทางสแกนดิเนเวีย ท่ามกลางสวนสวยและแมกไม้ใหญ่ อย่าลืมมาก่อนพระอาทิตย์ตกดิน มีมุมสวยๆให้โพสต์ถ่ายรูปเพลินๆมากมาย
ตัวบ้านใหญ่คือห้องอาหารหลัก ชั้นล่างรองรับได้ 60 คน มีครัวเปิดทันสมัยใหญ่โตที่สามารถไปยืนถ่ายรูปด้านหน้า และชั้นบนมีห้องส่วนตัวอีกถึง 3 ห้อง ส่วนบ้านเล็กด้านซ้ายมือคือโซนบาร์นั่งเล่น มีเมนูของกินเล่นรองท้องได้ด้วย
ร้านแห่งนี้นำทีมโดยเชฟมาร์ติน เอนสตรอม(Martin Enstrom) โดยจะเสิร์ฟอาหารเป็นคอร์ส เรียกชื่อคอร์สง่ายๆเรียงตามเบอร์เลยคือ ONE TWO THREE FOUR FIVE SIX จากเดิมที่ผมไปชิมมี 5 คอร์ส 3,500 บาท++ ต่อคน เมื่อเร็วๆนี้ ได้ปรับเปลี่ยนเป็น 6 คอร์ส 4,200 บาท++ ต่อคน ซึ่งแต่ละคอร์สมี 2 เมนูให้เลือก(แต่ก่อนมี 3 เมนูให้เลือก) ซึ่งเมนูเดิมยังมีอยู่เกือบครบถ้วน แนะนำว่าถ้าไปด้วยกันให้สั่งคนละอย่างมาแบ่งกันชิมให้ครบทุกเมนู
ก่อนอื่นขอแนะนำเมนูเสริมต่างหากไม่อยู่ในคอร์ส แต่เชียร์ให้สั่งเพิ่มเลย วิลล่า บยอร์น ฟรันต์เซน คาเวียร์ ขนาด 30 กรัม(Villa Björn Frantzén caviar)(1,950++) ให้คาเวียร์ทั้งตลับ แบ่งกัน 3 คนสบาย ทา Sour cream กับเนย Beurre noisette โรยสาหร่ายโนริแห้ง บนวาฟเฟิลผสมเนื้อขนุนและมะพร้าว ทาทับด้วยคาเวียร์ บีบมะนาวนิดนึง สุดยอดมาก
เมนูพิเศษสั่งเพิ่มอีกอย่างคือ หอยนางรมปรุงสุกเล็กน้อยที่ 63.4 องศา ราดครีมรมควันและน้ำมันลูกซีบัคธอร์น กินแล้วสดชื่นไม่เหมือนใคร(ตัวละ 250 บาท++)
ลืมบอกไปว่าแค่ขนมปังที่มาเสิร์ฟก็อร่อยแล้ว เป็นขนมปังข้าวไรย์เนื้อแน่นนุ่มสีเข้มๆรสอมหวานเล็กน้อย ทาด้วยเนยบอร์ดิเย่(Bordier)รสเค็มหอมมันจากฝรั่งเศส
จากนั้นก็เริ่มกันด้วยคอร์ส ที่ 1 ซึ่งผมจะอธิบายเมนูตามการจัดคอร์สใหม่เป็น 6 คอร์ส ที่ผมชื่นชอบมากๆคือจานเนื้อลูกวัว Veal tartar ปรุงสดๆ มีความเปรี้ยวสดชื่นจากเลมอน หอมมันด้วย crème fraiche แกล้มเมลอนดองและโรยไข่ปลาเว็นเดส(vendace) ของสวีเดนเคี้ยวกึ๊ดๆเลย
ถ้าไม่กินเนื้อก็มีปลานอร์วีเจียนแซลมอนสดหมักเกลือ และเนื้อขาปูอลาสก้าที่ลวกในเบียร์ กับไข่ปลาเทราต์และแตงดอง
คอร์สที่ 2 หรือนัมเบอร์ TWO มีเมนูไข่ตุ๋นญี่ปุ่นกับดอกกะหล่ำ เห็ด Morels และถั่ว Split peas แห้งสีเขียว หน้าตาร่วมสมัยไม่เหมือนไข่ตุ๋น และเมนู Jerusalem artichokes หรือแก่นตะวัน กับไข่ปลา vendace โรยหอมทอดกรอบๆ ก็ดีทั้งคู่เลย
คอร์สที่ 3 มีหอยเชลล์ย่างในน้ำซอสทรัฟเฟิลดาชิ ออกแนวผสมญี่ปุ่น กินกับหัวผักกาด parsnip ดอง ส่วนอีกเมนูคือล็อบสเตอร์ลวกเสิร์ฟเย็นเนื้อสดหวาน กับก้านรูบาร์บ(Rhubarb) น้ำใสๆที่ราดคือน้ำมะเขือเทศกับวานิลลา มีองค์ประกอบหลายอย่าง
และคอร์สที่ 4 มีปลา Turbot อบ คือปลาตัวแบนๆเนื้อแน่นๆในตระกูลปลาลิ้นหมาหรือปลาตาเดียว ราดซอสหน่อไม้ฝรั่งสีขาว อีกอย่างเป็นเมนูใหม่ ผมไม่เคยชิมมาก่อน คือเซเลอรี่แอค (Celeriac)หรือหัวขึ้นฉ่ายฝรั่งกับเห็ดชองเทอเรลล์( Chanterelle)ดอง
ก่อนเข้าจานหลัก จะมีมีดด้ามจับสวยๆสีสันสดใสมาให้เลือก ทำให้รู้สึกเจริญอาหารขึ้นไปอีก
คอร์สที่ 5 จานหลักเน้นเนื้อๆ มีเมนูเป็ดกับฟัวกราส์ (Duck & foie gras)หรือตับห่าน ซอสที่มีส่วนผสมของราสพ์เบอร์รี่ มีบีทรูตกับถั่วพิชตาชิโอด้วย เป็นเมนูที่อร่อยมาก อีกอย่างคืออกไก่นุ่มๆราดซอสเห็ดและทรัฟเฟิลกลิ่นอายญี่ปุ่น กินกับไข่คนหรือสแครมเบิ้ลเอ๊กอน่าเสียดายแก้มวัวตุ๋น Ox cheeks นุ่มแทบละลายในปาก ไม่มีในคอร์สเมนูตอนนี้แล้ว
คอร์สสุดท้าย ขนมหวาน มีให้เลือก 3 อย่าง ผมชอบเมนู ไอศกรีมรมควัน Smoked ice cream ที่ควรถ่ายคลิปช่วงที่ราดซอส Salted Fudge ลงบนโดมช็อกโกแลต ซึ่งจะมีควันพุ่งออกมานิดนึง มีกลิ่นรมควันกับกลิ่นกานพลูผสมด้วย อีก 2 เมนูที่ให้เลือกคือไอศกรีมซอร์เบต์ส้มสีเลือดหรือ blood orange และไอศกรีมพริกไทยเสฉวนเหมาะสำหรับคนที่ชอบหมาล่า
วันที่ไปชิมนั้น ตอนจบยังมีขนม Petit Fours เป็น Madeleine คลุกชะเอมเทศและ ผงราสพ์เบอร์รีให้ชิมอีกด้วย
ตั้งแต่เดือนตุลาคม วิลล่า ฟรันต์เซน เพิ่งเปิดบริการมื้อกลางวันช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ด้วย เริ่มตอน 12.00 น. นอกเหนือไปจากมื้อเย็นที่เปิดตั้งแต่ 5 โมงครึ่งเย็นเป็นต้นไป ในวันอังคาร-อาทิตย์ โดยจะหยุดทุกวันจันทร์ เข้าไปจองล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ www.villafrantzen.com มีที่จอดรถสะดวกสบาย ถ้าไปมื้อเย็นก่อนเวลา ให้ไปนั่งเล่นในบาร์ด้านซ้ายก็ดีนะจ๊ะ